เกาะสีชังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ ท่องเที่ยวอันงดงาม
เกาะสีชัง เป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปีจนถึงปัจจุบัน มีธรรมชาติความงดงามแตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ ท่องเที่ยวอันงดงาม เกาะสีชังเป็นท้องที่ที่มีความสำคัญทาประวัติศาสตร์เพราะเป็นสถานที่ประทับ ของพระเจ้า แผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีหลักฐานปรากฏจากพระนามาภิไธยหลาย แห่ง และ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นสถานที่ประทับใน ฤดูร้อน และพระราช ทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้ เกาะสีชัง เป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร ประกอบ ด้วย เกาะสีชัง และเกาะบริวารน้อยใหญ่อีก 8 เกาะ คือ เกาะยายท้าว เกาะค้างคาว เกาะท้ายตาหมื่น เกาะปรง เกาะขามใหญ่ เกาะขามน้อย เกาะสัมปันยื้อ และเกาะร้านดอกไม้ เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็น เกาะที่น่า ท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้
1.พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นทที่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของประเทศตะวันตก ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างดังต่อไปนี้
- เรือนผ่องศรี จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต
- พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านทรงโปรดเกล้าวาง ศิลาฤกษ์ ใน ปี พ.ศ.2435 แต่ขณะที่กำลังก่อสร้างพระที่นั่งองค์นี้ ได้เกิดเหตุความไม่สงบ ร.ศ.112 ขึ้น ต่อมา พระองค์ท่านได้มีพระราชองค์การรับสั่งให้รื้อพระที่นั่งองค์นี้ แล้วมาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพมหานคร และพระราชทานนาม ใหม่ว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งองค์พระที่นั่งเป็นเรือนไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก การก่อสร้างนั้นไม่ได้ใช้ตะปูเข้าเรือนเลยสักตัว เป็นการสร้างเรือนไม้ด้วยช่างไม้หลวงฝีมือชั้นครู ภายใน พระจุฑาธุชราชสถานปัจจุบันเหลือเพียงฐาน ของอาคารซึ่งเป็นคานคอดินที่เหลือให้พวกเรา ได้จินตนาการว่า องค์พระที่นั่งวิมานเมฆได้เคยก่อสร้างเป็นอาคารริมทะเลที่สวยงามอย่างมาก
- เรือนวัฒนา จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5
- สะพานอัษฎางค์ อยู่ในบริเวณพระตำหนัก เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขื้นเทียบเรือหลังจากที่เสด็จประพาสฝรั่งเศส ที่เห็นนี่คือบูรณะใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ว่ายังคงรูปแบบสภาพเดิมทั้งหมด
- อัษฎางค์ประภาคาร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศิลาอยู่ใต้น้ำอยู่ตรงปากช่องทางเรือ ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ สังเกต แก่เรือที่จะเดินเข้าออก
- พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางค์นิมิตร เป็นพระอุโบสถที่อยู่ในเขตพระราชวัง มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือ พระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบ ลังกาตัวพระ อุโบสถสร้างแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บริเวณพระเจดีย์อุโบสถยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อ มาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียปลูกไว้ด้วย พระเจดีย์อุโบสถนี้ที่ตั้งอยู่บนเขา ณ ตำแหน่งที่สูงมองเห็นได้ชัด และจากองค์พระเจดีย์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานโดยรอบ รวมถึงภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวย
2. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็น ทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน
3. มณฑปรอยพระพุทธบาท อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็น จุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ
4.ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์สามารถ ชม พระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็น ที่ตั้ง พลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5
5.แหลมมหาวชิราวุธ แหลมมหาวชิราวุธ คล้ายกับแหลมพรมเทพ แต่เล็กกว่าเป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีสะพาน ที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลม นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาที่นั่นกันมากเพราะเป็นโขดหินมากมายเป็นแหล่งที่อยู่ อาศัยของฝูงปลาหลายชนิด และสวยงามเป็นอย่างมาก แหลมสลิดยังเ็ป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นอีก ด้วยในฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกน้ำจะมีดวงใหญ่โตเป็นพิเศษ
6.หาดถ้ำเขาพัง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่ การเล่นน้ำการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวก มาก หากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง
7.แหลมจักรพงษ์ เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่ง เลยหาดถ้ำพัง ไปทางทิศตะวันตก ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางไปหาดถ้ำพัง บริเวณริมฝั่ง ทะเลจะเป็นโขดหินขนาดใหญ่ สวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามและมีจุดพักของ นักท่องเที่ยวปลูก เป็นกระโจมเล็กๆกลมกลืนกับบรรยากาศ ได้อย่างสวยงสมและลงตัวลงตัว
1. รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายบางนา - ตราด มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี จากตัวเมืองชลบุรี มุ่งหน้าสู่บางแสน (หลักกิโล เมตรที่ 104 ท่านจะถึงแยกขวามือเข้าหาดบางแสน) จากทางเข้าหาดบางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึง ห้าง โรบินสันศรีราชา ซึ่งอยู่ทางขวามือของท่าน (ตรงห้างโรบินสัน คือ หลักกิโลเมตรที่ 117) จากนั้นให้ เลี้ยวขวาตรง ห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึง ท่าเรือเกาะลอย
2. รถโดยสารสาธารณะ สามารถขึ้นรถได้ 2 แห่ง คือ
- สถานนีเอกมัย นั่งรถกรุงเทพ - สัตหีบ หรือกรุงเทพ - ศรีราชา หรือ กรุงเทพ - พัทยา แล้วไปลงที่ หน้าห้าง โรบินสัน ศรีราชา จากนั้นเดินข้ามฝั่งไปยังห้างโรบินสัน แล้วนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องไป ยังท่าเรือเกาะลอย ( ค่าโดยสาร 40 บาท )
- สถานีหมอชิตรถออกทุกครึ่งชัวโมง ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ที่มีรถออกตั้งแต่ 04.30 น.