ประเพณีแห่นก เป็นประเพณีพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เป็นงานใหญ่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามโอกาส อาจจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริง จัดในงานเฉลิมฉลองตามเทศกาล หรือเพื่อต้อนรับอาคันตุกะสำคัญ
ประเพณีแห่นก
เป็นประเพณีพื้นเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ซึ่งได้กระทำสืบเนื่องกันมาเป็นเวลานาน จัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามโอกาสเพื่อความสนุกรื่นเริง เป็นประเพณีที่แสดงออกเกี่ยวกับความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในศิลปะ และอาจจัดขึ้นในโอกาสเพื่อเป็นการแสดงคารวะ แสดงความจงรักภักดีแก่ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือ หรือในโอกาสต้อนรับแขกเมือง บางทีอาจจะจัดขึ้นเพื่อความรื่นเริงในพิธีการเข้าสุหนัด หรือที่เรียกว่า “มาโซะยาวี” หรือจัดขึ้นเพื่อการประกวดเป็นครั้งคราว
จากตำนานบอกเล่ากล่าวถึงความเป็นมาของประเพณีแห่นกว่าเริ่มที่ยาวอ (ชวา) กล่าวคือ มีเจ้าผู้ครองนครแห่งยาวอพระองค์หนึ่ง มีพระโอรสและพระธิดาหลายพระองค์ พระธิดาองค์สุดท้องทรงเป็นที่รักใคร่ของพระบิดาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้รับการเอาอกเอาใจทั้งจากพระบิดาและข้าราชบริพาร ต่างพยายามแสวงหาสิ่งของและการละเล่นมาบำเรอ ในจำนวนสิ่งเหล่านี้มีการจัดทำนกและจัดตกแต่งอย่างสวยงาม แล้วมีขบวนแห่แหนไปรอบ ๆ ลานพระที่นั่ง เป็นที่พอพระทัยของพระธิดาเป็นอย่างยิ่ง จึงโปรดฯ ให้มีการจัดแห่นกถวายทุก 7 วัน
การจัดขบวนแห่นก ประกอบด้วยขบวนต่าง ๆ ดังนี้
ขบวนแรก ได้แก่ เครื่องประโคมสำหรับประโคมดนตรี นำหน้าขบวนนก ประกอบด้วย คนเป่าปี่ชวา 1 คน กลองแจก 1 คู่ ฆ้องใหญ่ 1 ใบ ถัดมาเป็นขบวนบุหรงสิรี(บายศรี) ผู้ทูนบายศรีต้องเป็นสตรีที่ได้รับเลือกเฟ้นจากผู้ที่มีเรือนร่างได้สัดส่วน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหลากสีตามประเพณีท้องถิ่น พานบายศรี ใช้พานทองเหลือง ใช้จำนวนคี่
ขบวนที่สอง เป็นผู้ดูแลนก แต่งกายนักรบมือถือกริซนำหน้านก ซึ่งจะเลือกจากผู้ชำนาญการร่ายรำซีละ กริซ รำหอก
ขบวนที่สาม เป็นขบวนนก 4 ตัว จำนวนคนหามนกแล้วแต่ขนาดและน้ำหนักของนก
ขบวนที่สี่ เป็นขบวนกริซ ขบวนหอก ผู้ร่วมขบวนแต่งกายอย่างนักรบสมัยโบราณ
สาระ
แสดงถึงความสามัคคี ความพร้อมเพรียง และเป็นการอนุรักษ์สืบทอดประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นต่อไป