เขื่อนลำพระเพลิงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เงียบสงบ อากาศดีเหมาะสำหรับการพักผ่อน รับประทานอาหาร และเช่าเรือชม อ่างเก็บน้ำ และพื้นที่ป่าเหนือเขื่อนก็เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เขื่อนลำพระเพลิง หรือ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เป็นเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เงียบสงบ อากาศดีเหมาะสำหรับการพักผ่อนยามเย็น และพื้นที่ป่าเหนือเขื่อนก็เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ประชาชนท้องถิ่นละแวกนี้ใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคบริโภค ระหว่างเส้นทางไปเขื่อนยังมีชุมชนเก่าแก่ เช่น ตำบลงิ้ว ซึ่งเป็นชุมชนมอญที่มาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ให้เราได้สามารถแวะดูวิถีชีวิตแบบธรรมชาติกับบ้านคลองขุด สวนละมุด และวัดลำพระเพลิง ซึ่งหาชมได้ยาก แต่จะว่าไปแล้วเขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 โดยการกั้นน้ำที่ภูเขาโซ่ และภูเขาหลวงที่ประชิดกันบริเวณบ้านบุหัวช้าง ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในการเกษตรกรรม และป้องกันอุทกภัย โดยเขื่อนได้เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ. 2510 และอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอวังน้ำเขียวที่ใครผ่าน เส้นทางนี้มักจะแวะถือโอกาสถ่ายรูปและดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติที่สดชื่น แถวบริเวณเขื่อนเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อลมหนาวมาเยือน
ลักษณะของเขื่อนจะเป็นทะเลสาบยาวไปตามลำน้ำ จากหน้าเขื่อนประมาณ 21 กิโลเมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 320 ล้านลูกบาศก์เมตร และเหนือเขื่อนมีอาณาเขตรับน้ำกว้างถึง 807 ตารางกิโลเมตร ทราบมาว่า บริเวณเขื่อนลำพระเพลิงแห่งนี้เป็นสถานที่ท่านสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีโปรดปรานมาก ครั้งใดที่พระองค์เสด็จประพาสอีสานจะเสด็จมาประทับ ณ บ้านพักรับรองของกรมชลประทานเขื่อนลำพระเพลิงเสมอ
การเดินทาง สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) จากจังหวัดนครราชสีมา เข้าอำเภอปัก-ธงชัยไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะพบสี่แยก เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 28 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขื่อนลำพระเพลิง ซึ่งจะมีบริการให้นักท่องเที่ยวเช่าเหมาเรือหางยาวไปชมบรรยากาศภายในอ่างเก็บน้ำ เที่ยวน้ำตกคลองกี่หรือน้ำตกขุนโจนได้ โดยใช้เวลาไป-กลับประมาณ 3-4 ชั่วโมง