เนื่องจากนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ทางจังหวัดจึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองทุกปี ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นระยะเวลา 7 วัน
เนื่องจากนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศโดยองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ทางจังหวัดจึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองทุกปี ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นระยะเวลา 7 วัน ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การถ่ายภาพโบราณเป็นภาพหนังใหญ่ ซึ่งเป็นศิลปะที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา, ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและการจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนโบราณ, สัมผัสบรรยากาศตลาดย้อนยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาและตลาดน้ำ รวมทั้งการแสดงแสงเสียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยา
การแสดงจินตภาพประกอบแสง สี เสียง
เรื่อง “ยอยศยิ่งฟ้า นานาชาติประกาศก้อง แผ่นดินทองศรีอยุธยา”
ประกอบด้วยการแสดง 5 องก์ ซึ่งแต่ละองก์ ประกอบด้วยการแสดง ดังนี้
องก์ที่ 1 วิวรรธน์นคร สร้างบ้านแปงเมือง
องก์ที่ 2 นานาอารยะ การค้าในสยาม
องก์ที่ 3 ทหารอาสา ทหารต่างชาติแห่งอโยธยา
องก์ที่ 4 รัตนสมัย จากปารีสถึงมหานครอยุธยา
องก์ที่ 5 อารยวัฒนา “อยุธยา สู่รัตนโกสินทร์”
โครงเรื่องย่อของแต่ละองก์มีดังนี้
♦ องก์ที่ 1 วิวรรธน์นคร สร้างบ้านแปงเมือง พระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาอโยธยาศรีรามเทพนคร บ้านเมืองนั้นเป็นปึกแผ่นมั่นคงรุ่งเรืองประกอบกิจค้าขายโดยครบถ้วนกับชาว เอเชีย พ่อค้าชาวจีน ชวา มลายู อินเดีย และเปอร์เซีย ต่างประจักษ์ในความอุดมสมบูรณ์ของนครศรีอโยธยา
♦ องก์ที่ 2 นานาอารยะ การค้าในสยาม ด้วยความอุดมสมบูรณ์ และสงบสุข แห่งมหานครศรีอโยธยา ได้เป็นประจักษ์พยานไปทั่วทุกนานาอารยประเทศ จวบจนพุทธศักราช 2054 สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ราชทูตจากโปรตุเกส นับเป็นฝรั่งตะวันตกชาติแรกที่เดินทางเข้าสู่สยามประเทศ
♦ องก์ที่ 3 ทหารอาสา ทหารต่างชาติแห่งอโยธยา ยุทธหัตถีครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์การศึกของพระมหากษัตริย์บนหลังช้าง ได้ประกาศพระเกียรติภูมิแห่งพระปรีชาสามารถขององค์พระนเรศวร เหล่าทหารกล้า รวมไปถึงพลทหารอาสาชาวต่างชาติ ทั้งญี่ปุ่นและโปรตุเกส อันนำมาซึ่งเอกราชสู่แผ่นดินสยามอีกครั้ง
♦ องก์ที่ 4 รัตนสมัย จากปารีสถึงมหานครอยุธยา เมื่อสมเด็จพระนารายณ์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่มีคราใดในประวัติศาสตร์ที่พระนครจะหลากหลายไปด้วยชาวต่างชาติต่างภาษา อย่างมากมาย และเมื่อราชทูตแห่งฝรั่งเศสมาเจริญสัมพันธไมตรีนั้น ได้บรรยายความงดงามแห่งแผ่นดินอย่างไม่มีเปรียบกับยุคสมัยใดได้ทั้งสิ้น และในการศาสนาเมื่อพระอุบาลี เดินทางสู่ศรีลังกาเป็นการประกาศพระพุทธศาสนาสยามวงศ์ให้มั่งคงถาวรในลังกา ทวีป
♦ องก์ที่ 5 อารยวัฒนา “อยุธยา สู่รัตนโกสินทร์” หลัง 417 ปี ที่พระนครศรีอยุธยาดำรงฐานะมหานครเป็นราชธานีแห่งสยามประเทศ พระเจ้าตากสินทรางรวบรวมผู้คนทั้งชาวไทยและชาวจีนเข้าต่อสู้กู้คืนซึ่ง อิสรภาพสู่แผ่นดินอีกครั้ง จากอโยธยาถึงกรุงเทพมหานคร ดินแดนนี้ยังคงวัฒนาอยู่ได้ก็ด้วยพระบรมโพธิสมภารแห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรง เปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรมและพระปรีชาสามารถ ในฐานะพสกนิกรชาวไทยทุกคน ร่วมรู้รักสามัคคี น้อมถวายความจงรักภักดี ร่วมสดุดีประกาศพระเกียรติคุณแห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินและ พระมหาราชาแห่งราชาทั้งปวง
สำหรับผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา หรือที่ทำการปกครองจังหวัด (เสมียนตราจังหวัด) ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา