กลุ่มกะปิบ้านพระพุทธ ท่องเที่ยวไทย จังหวัดสงขลา

กลุ่มกะปิบ้านพระพุทธ  ท่องเที่ยวไทย จังหวัดสงขลา
  "จองง่าย ไม่ผ่านใคร"
Thailand Travel
พะโยมทอง โฮมสเตย์
พะโยมทอง โฮมสเตย์ Payom Thong Homestayให้บริการบ้านพักตากอากาศ กลางอ่าวเกาะยอ ส ...
ยี่ฟ้าแกรนด์ซิตี้
โรงแรมยี่ฟ้าแกรนด์ซิตี้ หาดใหญ่ ด้วยห้องพักระดับมาตรฐาน 84 ห้อง พร้อมอุปกรณ์อำนว ...
บีพี แกรนด์สวีต
บีพี แกรนด์สวีต โรงแรมแห่งนี้ให้บริการห้องพัก 72 ห้อง พร้อมความสะดวกสบายและความผ ...
หรรษา เจบี หาดใหญ่
โรงแรมหรรษา เจบี ได้รับการออกแบบทั้งเพื่อธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ตั้งอยู่อย่างเ ...
หาดสะกอม
หาดสะกอมเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง หาดสะกอม จุดหมายทางด้านการท่องเที่ยว ...
หาดสร้อยสวรรค์
หาดสร้อยสวรรค์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง หาดสร้อยสวรรค์ เป็นสถานที ...
Rating : 8.5/10
6915
โทรศัพท์ :
018-988344
กลุ่มกะปิบ้านพระพุทธ จังหวัดสงขลา

แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หมู่ที่ 2 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา 90110

กะปิเทพา จังหวัดสงขลา

กลุ่มผู้ผลิต กลุ่มกะปิบ้านพระพุทธ

สถานที่ผลิต หมู่ที่ 2 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา 90110

ประธานกลุ่ม นางสุนีย์ หัดขะเจ

ประวัติความเป็นมา อดีต ภาษาท้องถิ่นใต้ เรียกว่าเคยเพราะใช้กุ้งตัวเล็กเป็นวัตถุดิบที่นำมาทำ กุ้งตัวเล็กคือ กุ้งเคยตรงกับภาษากลางที่เรียกว่า กะปิ คำในภาษาใต้จะเรียกสั้น ๆ ว่าเคย ซึ่งหมายถึงกะปินั่นเอง กะปิ หรือเคย สมัยโบราณ(จากการบอกเล่า)เคยทำจากนกตัวเล็กๆนานาชนิดในป่าเขาเท่าที่หาได้ นำมาหมักเก็บไว้รับประทานอีกชนิดหนึ่งทำจากกุ้งตัวเล็กหรือกุ้งเคยจากทะเล และกุ้งน้ำจืด จากแม่น้ำลำคลอง เคยนก ไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากกรรมวิธีการผลิตการหาแหล่งวัตถุดิบไม่แน่นอนมี ปัญหาการเก็บรักษาความเค็มไม่เพียงพอเน่าเสียง่ายกลิ่นไม่หอมเหมือนกะปิ จุดเริ่มต้น กะปิกุ้ง หรือเคยกุ้ง ได้รับการถ่ายทอดกรรมวิธีการผลิตรุ่นต่อรุ่นด้วยการเรียนรู้จากวัตถุดิบใน ธรรมชาติจากการทำจากนกในป่าสู่ผลิตภัณฑ์ทะเลจากกุ้งเคย เพราะน้ำทะเลมีความเค็มทำให้รสชาติ สีการเก็บรักษาได้นานไม่เน่าเสียง่าย มีกลิ่นหอม ทำให้เป็นที่นิยมใช้ประกอบอาหารเกือบทุกชนิดความเค็มเป็นอาหารหลักที่ให้รส อาหารเข้มข้นได้ดีต่างจากเกลือแกงที่ให้ความเค็มอย่างเดียวไม่มีกลิ่นหอมของ โปรตีนดับกลิ่นคาวได้อย่างเดียว วัตถุดิบมีมากและหาง่าย

ความเชื่อสมัยโบราณ มีความเชื่อว่า ใช้กะปิรักษาแผลและป้องกันโรคบาดทะยักได้ โดยนำกะปิขนาดพอสมควรนำมาปิดปากแผลที่โดนตะปูตำหรือเหล็กสนิมทำให้เกิดบาด แผลทุกชนิดสะท้อนภูมิปัญญาเกี่ยวกับการรักษาบาดแผลไม่ให้เกิดการเน่าเพราะ ความเค็มจากเกลือรักษาเนื้อมากกว่า ถ้าใช้เกลืออย่างเดียวเวลาปิดหรือพอกบาดแผลจะไม่ เกาะบาดแผลเหมือนกับกะปิซึ่งทำหน้าที่ปิดปากแผลป้องกันแมลงรบกวนด้วยและอีก อย่างคงจะทำหน้าที่ระงับความเจ็บปวดได้

ชาวทะเลใช้ปิดปากแผลเมื่อโดนปลากะเบนแทงที่เท้าเพราะจะกัดเมือกลดพิษปลา กะเบน ชาวนาใช้กะปิ ผิงไฟให้แห้งผสมเหล้าขาว ดื่มเพื่อแก้อาการปวดท้องสำหรับวัวที่ท้องผูกใช้กะปิละลายน้ำป้อนให้วัวดื่ม

การผลิตสมัยก่อน ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเพียงแต่การทำให้ละเอียดด้วยการตำด้วยครกและสากไม้เพื่อ ให้เป็นเนื้อเดียวกันละเอียดเปรียบเทียบได้เท่ากับดินเหนียวจะทำให้เนื้อ แน่นหมักได้ดีสะดวกในการประกอบอาหารและเครื่องปรุงต่างๆเข้มข้นรับประทาน ง่ายและนำไปทำให้แห้งด้วยการผึ่งแดดพอหมาดๆนำไปหมักในโอ่งให้เพื่อการเก็บ รักษาไม่ให้สัมผัสกับอากาศทำให้คุณภาพและสีกลิ่นหอมคงที่เก็บรักษาไว้ได้ นานๆ

การผลิตสมัยใหม่ ยังคงรักษากรรมวิธีและใช้วัตถุดิบจากกุ้งเคยในทะเล เน้นความสะอาดคัดคุณภาพของวัตถุดิบ มีการใช้เครื่องมือทันสมัยขึ้นเช่น เครื่องบด ภาชนะบรรจุการหมักใช้เวลานานขึ้นเพื่อให้การหมักบ่มได้ที่ เน้นคุณภาพการผลิตทุกขั้นตอนโดยเฉพาะความสะอาด และปราศจากสิ่งเจือปน เช่น สี สารกันบูด มีการป้องกันและเก็บรักษาในภาชนะมิดชิดป้องกันแมลงฝุ่น สิ่งรบกวนทุกชนิด โดยเฉพาะผู้ผลิต จะต้องป้องกันมีผ้าปิดจมูก ผ้าคลุมผมถุงมือ ภาชนะบรรจุที่ทันสมัยเป็นที่ดึงดูดของตลาด มีการแบ่งโซล จัดการโรงเรือนเป็นแผนกที่ถูกต้องตามมาตรฐานโรงเรือนและให้ความสำคัญในขบวน การผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและทำลายสิ่งแวดล้อมรักษาคุณภาพ ราคาและพัฒนาเข้าสู่ระบบมาตรฐานการแข่งขันด้านการตลาดมีมาตรฐานจากทางราชการ รองรับ เช่น มผช. วิทยาศาตร์การอาหาร ฮาลาล และอย.เป็นต้น

ปัจจุบันสู่อนาคต การรวมตัวของชุมชนและสมาชิกชาวบ้านพระพุทธหมู่ที่ 2 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาซึ่งชุมชนอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเทพาประมาณ 7 กิโลเมตรเศษเป็นชุมชนชาวประมงชายทะเล มีประมาณ 252 ครัวเรือน ประชากร รวม 1,123 คน แยกเป็นชาย 553 คน หญิง 570 คน อาชีพส่วนใหญ่จับสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลอาศัยเรือประมงขนาดเล็ก มีเรื่ออวนลาก เรืออวนรุน เป็นเรือหากุ้ง หอย ปูปลาสัตว์น้ำที่ทำรายได้เป็นอาชีพทุกชนิดส่งขายพ่อค้าที่มารับซื้อถึงที่ และส่งขายในตลาดใกล้เคียงและบริโภคเองตามจำนวนมากน้อยที่หาได้แต่ละวัน สำหรับเรืออวนรุน ใช้จับกุ้งเคยหรือเรียกว่ารุนเคย ในฤดูกุ้งเคยในเดือนมกราคม – มีนาคมของทุกปีจะมีกุ้งเคยชุกชุมชาวประมงจะต้องรีบหากุ้งเคยไว้เพื่อทำกะปิ ทุกวันเพราะถ้าช้าไปกว่านี้จะหมดฤดูกาลไม่มีให้จับอีกต่อไปจะต้องรอไปจนกว่า จะถึงฤดูกาลใหม่ในปีต่อไปเพื่อให้มีการผลิตที่ต่อเนื่องและมีวัตถุดิบที่ เพียงพอในแต่ละปีจึงได้มีการบริหารจัดการด้วยการรวมกลุ่มสมาชิกในการเรียน รู้การดำเนินงานของกลุ่มอาชีพผลิตกะปิให้เป็นอาชีพที่มั่นคงอยู่คู่ชุมชน เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและมีชื่อเสียงตลอดไปจึงได้จัดตั้งกลุ่มอาชีพผู้ผลิต กะปิบ้านพระพุทธขึ้นมีสมาชิกประมาณ 35 คน

เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์ ได้จากการหมักตัวเคยหรือกุ้งกับเกลือในอัตราส่วนที่เหมาะสมทิ้งไว้ให้ สะเด็ดน้ำแล้วนำไปทำให้แห้งด้วยแสงแดด แล้วนำไปทำให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันด้วยการบดหรือตำและนำไปหมักต่ออีกไม่ น้อยกว่าสองเดือนเพื่อให้กลิ่นรสตามธรรมชาติของกะปิ

กะปิเป็นอาหารพื้นบ้านของชุมชนที่สำคัญและมีความจำเป็นขาดเสียมิได้ซึ่ง จะต้องอยู่คู่ครัวเรือนแทบทุกบ้านเป็นทั้งเครื่องปรุงและส่วนผสมในการประกอบ อาหารหรือบริโภคโดยตรงนับเป็นอาหารโปรตีนที่ง่ายต่อการรับประทานและประกอบ อาหาร ได้ทั้งหวานและคาว เช่นแกง ผัดเผ็ด น้ำพริกกะปิ น้ำปลาหวานและข้าวคลุกกะปิเป็นต้น

ความสัมพันธ์กับชุมชน บ้านพระพุทธ เป็นหมู่บ้านชายทะเลชาวบ้านประกอบอาชีพทางการประมง สมัยโบราณ มีความเชื่อว่าใช้กะปิรักษาแผลและป้องกันโรคบาดทะยักได้ โดยนำกะปิขนาดพอสมควรนำมาปิดปากแผลที่โดนตะปูตำหรือเหล็กสนิมทำให้เกิดบาด แผลทุกชนิดสะท้อนภูมิปัญญาเกี่ยวกับการรักษาบาดแผลไม่ให้เกิดการเน่าเพราะ ความเค็มจากเกลือรักษาเนื้อมากกว่า ถ้าใช้เกลืออย่างเดียวเวลาปิดหรือพอกบาดแผลจะไม่ เกาะบาดแผลเหมือนกับกะปิซึ่งทำหน้าที่ปิดปากแผลป้องกันแมลงรบกวนด้วยและอีก อย่างคงจะทำหน้าที่ระงับความเจ็บปวดได้ ชาวทะเลใช้ปิดปากแผลเมื่อโดนปลากะเบนแทงที่เท้าเพราะจะกัดเมือกลดพิษปลา กะเบน ชาวนาใช้กะปิ ผิงไฟให้แห้งผสมเหล้าขาว ดื่มเพื่อแก้อาการปวดท้องสำหรับวัวที่ท้องผูกใช้กะปิละลายน้ำป้อนให้วัวดื่ม

ขั้นตอนการผลิต

1. นำกุ้งหรือเคยกุ้งมาล้างกับน้ำทะเลให้สะอาดเลือกเอาสิ่งที่ปนเปื้อนติดมาออกให้หมด

2. หมักกับเกลือ อัตราส่วน เคย ต่อ เกลือประมาณ 10 ต่อ 1 หมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อนำน้ำในมันเคยไหลออกมาน้ำเคยที่ได้ใช้แทนน้ำปลาได้

3. ตากไว้ประมาณ 1 – 2 วัน พอหมาดๆ

4. ตำหรือบดกับเครื่องให้ละเอียด

5. อัดเคยลงในโอ่งให้แน่น หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2 วัน

6. นำมาตากแดดอีกครั้ง โดยแบะออกเป็นก้อนแบนๆ 1 วัน

7. ตำหรือบดกับเครื่องครั้งสุดท้ายถ้ากะปิแห้งเกินไปให้เติมน้ำลงไปด้วยในช่วงที่บด

8. อัดเคยลงในโอ่งที่สะอาดให้แน่นอย่าให้มีช่องว่าง ปิดปากโอ่งด้วยพลาสติก รัดให้แน่น หมักทิ้งไว้ 3– 4เดือน ช่วงที่หมักถ้ามีน้ำให้ตักออก และเปิดปากโอ่งให้รับแสงแดดบ้างเป็นครั้งคราว

9. เมื่อครบระยะเวลาหมักก็เริ่มทยอยออกมาบรรจุถุงพลาสติกหรือกระปุก เพื่อที่จะจำหน่ายต่อไป

เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต หมักประมาณ 1 เดือน ก็สามารถรับประมาณได้แต่รสชาติจะไม่อร่อยเหมือนกะปิที่หมักไว้นานๆ

ข้อความ *

รูป
นามสกุล .jpg, .gif, .png ขนาด์ไม่เกิน 100 KB, กว้างไม่เกิน 600 pixel
ชื่อที่ใช้แสดง *
Email
แจ้งทาง Email เมื่อมีคนมา comment (Email จะถูกเก็บเป็นความลับ)
ส่งข้อความ ยกเลิก
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ HotelDirect.in.th ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ info@HotelDirect.in.th เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้
Thailand hotels Thailand hotels
Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
Copyright © 1995-2025 Ideal Creation Center Co., Ltd. All Rights Reserved. Designated trademarks and brands are the property of their respective owners.
Use of this Web site constitutes acceptance of the HotelDirect User Agreement and Privacy Policy.