“ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จัดขึ้นเพื่อร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย ขอขมาพระแม่คงคาที่ใช้น้ำในการอุปโภค บริโภค ตลอดจนการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำลำคลอง และเป็นการลอยเคราะห์ อธิษฐานขอสิ่งที่ตนปรารถนาตามคติดั้งเดิม นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธาน
เชื่อกันว่าเป็นงานที่มีขึ้นในสุโขทัยตั้งแต่โบราณ ตามคติความเชื่อว่าเป็นการบูชา และขอขมาพระแม่คงคาเป็นการสะเดาะเคราะห์ และบูชาพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์ หรือเป็นการบูชารอยพระบาท มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ คือหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟ และหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์บรรยายถึงลักษณะของกระทงที่นางนพมาศประดิษฐ์สำหรับลอยประทีปเป็นรูปดอกบัวบานถวายสมเด็จพระร่วงเจ้า ทำให้รู้ว่ามีประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ในสุโขทัยตั้งแต่สมัยพระร่วง
ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ยังมีอยู่ในบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน กล่าวไว้ว่า " การลอยพระประทีป ลอยกระทงนี้ เป็นนักขัตฤกษ์ที่รื่นเริงทั่วไปของชนทั้งปวง ทั่วกัน ไม่เฉพาะแต่การหลวง แต่จะนับว่าเป็นพระราชพิธีอย่างใดก็ไม่ได้ ด้วยไม่มีพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์อันใดเกี่ยวข้องเนื่องในการลอยพระประทีปนั้น เว้นไว้แต่จะเข้าใจว่า ตรงกับคำที่ว่า ลอยโคมลงแช่น้ำเช่นกล่าวมาแล้ว แต่ควรนับถือว่าเป็นราชประเพณีซึ่งมีมาในแผ่นดินสยามแต่โบราณ ตั้งแต่พระนครยังอยู่ฝ่ายเหนือ " นิยมทำกันในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกๆ ปี ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตามแม่น้ำ ลำคลองขึ้นสูง และอากาศเริ่มเย็นลง
ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ที่สุโขทัย นับเป็นงานประเพณีลอยกระทงที่จัดได้ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย หัวใจของงานนี้ คือ ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ พลุ ตะไล ไฟพะเนียง ดอกไม้ไฟชนิดต่าง ๆ จังหวัดสุโขทัย กรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกันจัดงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ ในบรรยากาศของกรุงสุโขทัย เมื่อ 700 ปีให้กลับฟื้นคืนชีวิตมาอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน
สำหรับจังหวัดสุโขทัย ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของการจัดงานประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย เอกลักษณ์ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ เป็นที่เลื่องลือ เช่นมี กระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ งานฝีมืออันวิจิตรที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัย ตลาดปสานโบราณ หรือ ตลาดแลกเบี้ย คือ การจำลองบรรยากาศการซื้อ ขาย แบบโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้อขาย อาหารพื้นเมือง และ การแสดงแสง สี เสียง สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก
ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ การจัดงานประเพณีลอยกระทง กระทง เผาเทียน เล่นไฟ อันเป็นเอกลักษณ์ เช่นมี กระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ งานฝีมืออันวิจิตรที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัย ตลาดปสานโบราณ หรือ ตลาดแลกเบี้ย คือ การจำลองบรรยากาศการซื้อ ขาย แบบโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้อขาย อาหารพื้นเมือง และ การแสดงแสง สี เสียง สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก
ในงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ได้จัดให้มีพิธีเผาเทียนแบบโบราณ โดยเชิญชวนให้ประชาชนทั้งหลายร่วมพิธีซื้อตะคัน เผาเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดแล้วนำไปวางบนฐานหรือระเบียงโบสถ์ วิหาร พระเจดีย์ โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ทำให้เกิดแสงสว่างระยิบระยับนับร้อยนับพันดวง เป็นบุญกุศลที่ได้ร่วมแรงศรัทธาพร้อมกัน หากใครจะนำตะคันกลับบ้านเพื่อเป็นที่ระลึกนึกถึงงานเผาเทียนเล่นไฟที่สุโขทัยก็ได้